รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก
ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
รัชกาลที่ 1
ลักษณะคำประพันธ์ กลอนบทละคร
เนื้อเรื่องย่อ
นนทกมีหน้าที่ล้างเท้าเทวดาอยู่ที่เชิงเ
ขาไกรลาส เมื่อเทวดาพากันไปเฝ้าพระอิศวร พวกเทวดาชอบข่มเหงนนทกอยู่เป็นประจำโดยการลูบหัว ตบหัว จนกระทั่งผมร่วงหมด
ขาไกรลาส เมื่อเทวดาพากันไปเฝ้าพระอิศวร พวกเทวดาชอบข่มเหงนนทกอยู่เป็นประจำโดยการลูบหัว ตบหัว จนกระทั่งผมร่วงหมด
![ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก](https://sites.google.com/site/nxngpaengzaza/_/rsrc/1310439920816/home/imagesCA1DDMK6.jpg?height=251&width=283)
![รูปภาพที่เกี่ยวข้อง](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEja7UPYNT0CNLH7XzkO3VBBTNdx1cNco_XFYgxoFQEI_ZtQU2zHaXqvWVYffhJP0fF8XqqBFfKcG653OqmEFDAF2lb9g23wUZztpyagz_xuf6e50JB6oGw6W8PeLbpYpg4Zl3auxks1exGx/s200/481656897.jpg)
เนื้อเรื่อง
มาจะกล่าวบทไปถึง นนทกน้ำใจกล้าหาญ
ตั้งแต่พระสยมภูวญาณ ประทานให้ล้างเท้าเทวา
อยู่บันไดไกรลาสเป็นนิจ สุราฤทธิ์ตบหัวแล้วลูบหน้า
บ้างให้ตักน้ำลางบาทา บ้างถอนเส้นเกศาวุ่นไป
จนผมโกร๋นโล้นเกลี้ยงถึงเพียงหู ดูเงาในน้ำแล้วร้องไห้
ฮึดฮัดขัดแค้นแน่นใจ ตาแดงดั่งแสงไฟฟ้า
เป็นชายดูดู๋มาหมิ่นชาย มิตายจะได้มาเห็นหน้า
คิดแล้วก็รีบเดินมา เฝ้าพระอิศราธิบดี ฯ
ครั้นถึงจี่งประณตบทบงสุ์ ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี
ว่าพระองค์เป็นหลักธาตรี ย่อมเมตตาปรานีทั่วพักตร์
ผู้ใดทำชอบต่อเบื้องบาท ก็ประสาททั้งพรแลยศศักดิ์
ตัวข้านี้มีชอบนัก ล้างเท้าสุรารักษ์ถึงโกฏิปี
พระองค์ผู้ทรงศักดาเดช ไม่โปรดเกศแก่ข้าบทศรี
กรรมเวรสิ่งใดดั่งนี้ ทูลพลางโศกีรำพัน ฯ
เมื่อนั้น พระอิศวรบรมรังสรรค์
เห็นนนทกโศกาจาบัลย์ พระทรงธรรม์ให้คิดเมตตา
จึ่งมีเทวราชบรรหาร
เอ็งต้องการสิ่งไรจงเร่งว่า
ตัวกูจะให้ดั่งจินดา อย่าแสนโศกาอาลัย ฯ
บัดนั้น นนทกผู้มีอัชฌาสัย
น้อมเศียรบังคมแล้วทูลไป จะขอพรเจ้าไตรโลกา
ให้นิ้วข้าเป็นเพชรฤทธี จะชี้ใครจงม้วยสังขาร์
จะได้รองเบื้องบาทา
ไปกว่าจะสิ้นชีวี ฯ
เมื่อนั้น พระสยมภูวญาณเรืองศรี
ได้ฟังนนทกพาที ภูมีนิ่งนึกตรึกไป
ไอ้นี่มีชอบมาช้านอน จำจะประทานพรให้
คิดแล้วก็ประสิทธิ์พรชัย จงได้สำเร็จมโนรถ
ฯ
บัดนั้น นนทกผู้ใจสาหส
รับพรพระศุลีมียศ บังคมลาแล้วบทจรไป ฯ
ครั้นถึงบันไดไกรลาส ขัดสมาธินั่งยิ้มริมอ่างใหญ่
คอยหมู่เทวาสุราลัย ด้วยใจกำเริบอหังการ์
ฯ
เมื่อนั้น เทวาสุราฤทธิ์ทุกทิศา
สุบรรณคนธรรพ์วิทยา ต่างมาเฝ้าองค์พระศุลี ฯ
ครั้นถึงซึ่งเซิงไกรลาส คนธรรพ์เทวาราชฤาษี
ก็ชวนกันย่างเยื้องจรลี เข้าไปยังที่อัฒจันทร์ ฯ
นนทกก็ล้างเท้าให้ เมื่อจะไปก็จับหัวสั่น
สัพยอกหยอกเล่นเหมือนทุกวัน สรวลสันต์เยาะเย้ยเฮฮา
ฯ
บัดนั้น นนทกน้ำใจแกล้วกล้า
กริ้วโกรธร้องประกาศตวาดมา อนิจจาข่มเหงเล่นทุกวัน
จนหัวไม่มีผมติด
ขบฟันแล้วชี้นิ้วไป ฯ
ต้องสุบรรณเทวานาคี ดั่งพิษอสุนีไม่ทนได้
ลัมฟาดกลาดเกลื่อนลงทันใด บรรลัยไม่ทันพริบตา
ฯ
เมื่อนั้น หัสนัยน์เจ้าตรัยตรึงศา
เห็นนนทกนั้นทำฤทธา ชี้หมู่เทวาวายปราณ
ตกใจตะลึกรำพึงคิด ใครประสิทธิ์ให้มันมาสังหาร
คิดแล้วเข้าเฝ้าพระทรงญาณ ยังพิมานทิพรัตน์รูจี
ฯ
ครั้นถึงจึ่งประณตบทบงสุ์ ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี
ว่านนทกมันทำฤทธี ชี้หมู่เทวานั้นบรรลัย
อันซึ้งนิ้วเพชรของมัน พระทรงธรรม์ประทานหรือไฉน
จึ่งทำอาจองทะนงใจ ไม่เกรงใต้เบื้องบาทา ฯ
เมื่อนั้น พระอิศวรบรมนาถา
ได้ฟังองค์อมรินทรา จึ่งมีบัญชาตอบไป
ไอ้นี่ทำชอบมาช้านาน เราจี่งประทานพรให้
มันกลับทรยศกบฏใจ ทำการหยาบใหญ่ถึงเพียงนี้ ฯ
ตรัสแล้วจึ่งมีบัญชา ดูราพระนารายณ์เรืองศรี
ตัวเจ้าผู้มีฤทธี
เป็นที่พึ่งแก่หมู่เทวัญ
จงช่วยระงับดับเข็ญ ให้เย็นทั่วพิภพสรวงสวรรรค์
เชิญไปสังหารอ้ายอาธรรม์ ให้มันสิ้นชีพชีวา
ฯ
เมื่อนั้น องค์นารายณ์นาถา
รับสั่งถวายบังคมล ออกมาแปลงกายด้วยฤทธี ฯ
เป็นโฉมนางเทพอัปสร อ้อนแอ้นอรชรเฉลิมศรี
กรายกรย่างเยื่องจรลี ไปสู่ที่นนทกจะเดินมา ฯ
บัดนั้น นนทกผู้ใจแกล้วกล้า
สิ้นเวลาเฝ้าเจ้าโลกา สำราญกายาแล้วเดินมา ฯ
เหลือบเห็นสตรีวิไลลักษณ์ พิศพักตร์ผ่องเพียงแขไข
งามโอษฐ์งามแก้มงามจุไร งามนัยน์เนตรงามกร
งามถันงามกรรณงามขนง งามองค์ยิ่งเทพอัปสร
งามจริตกิริยางามงอน งามเอวงามอ่อนทั้งกายา
ถึงโฉมองค์อัครลักษมี พระสุรัสวดีเสน่หา
สิ้นทั้งไตรภพจบโลกา จะเอามาเปรียบไม่เทียบทัน
ดูไหนก็เพลินจำเริญรัก ในองค์เยาวลักษณ์สาวสวรรค
ยิ่งพิศยิ่งคิดผูกพัน
ก็เดินกระชั้นเข้าไป ฯ
โฉมเอยโฉมเฉลา เสาวภาค์แน่งน้อยพิสมัย
เจ้ามาแต่สวรรค์ชั้นใด นามกรชื่อไรนะเทวี
ประสงค์สิ่งอันใดจะใคร่รู้ ทำไมมาอยู่ที่นี่
ข้าเห็นเป็นน่ปรานี มารศรีจงแจ้งกิจจา ฯ
เมื่อนั้น นางนารายณ์เยาวลักษณ์เสน่หา
ได้ฟังยิ่งทำมารยา ชำเลืองนัยนาแล้วตอบไป
ทำไมมาล่วงไถ่ถาม ลวนลามบุกรุกเข้ามาใกล้
ท่านนี้ไม่มีความเกรงใจ เราเป็นข้าใช้เจ้าโลกา
พนักงานฟ้อนรำระบำบัน ชื่อสุวรรณอัปสรเสน่หา
มีทุกข์จึ่งเที่ยวลงมา หวังว่าจะให้คลายร้อน ฯ
สุดเอยสุดสวาท โฉมประหลาดล้ำเทพอัปสร
ทั้งวาจาจริตก็งามงอน ควรเป็นนางฟ้อนวิไลลักษณ์
อันซึ่งธุระของเจ้า หนักเบาจงแจ้งให้ประจักษ์
ถ้าวาสนาเราเคยบำรุงรัก ก็จะเป็นภักดิ์ผลสืบไป
ตัวพี่มิได้ลวนลาม จะถือความสิ่งนี้นี่ไม่ได้
สาวสรรค์ขวัญฟ้ายาใจ พี่ไร้คู่จะพึ่งแต่ไมตรี ฯ
เมื่อนั้น นางเทพนิมิตโฉมศรี
ค้อนแล้วจึ่งตอบวาที ว่านี้ไพเราะเป็นพ้นไป
อันซึ่งฝากไมตรีข้า ข้อนั้นไพเราะเป็นพ้นไป
อันซึ่งจะฝากไมตรีข้า ข้อนั้นอย่าว่าหารู้ไม่
เราเป็นนางรำระบำใน จะมีมิตรที่ใจผูกพัน
ในการนักเลงเพลงฟ้อน จึ่งจะผ่อนด้วยความเกษมสันต์
รำได้ก็มารำตามกัน นั่นแหละจะสมดั่งจินดา ฯ
บัดนั้น นนทกผู้ใจแกล้วกล้า
ไม่รู้ว่านารายณ์แปลงมา ก็โสมนัสสาพันทวี
ยิ้มแล้วจึ่งกล่าวว่าสุนทร ดูก่อนนางฟ้าเฉลิมศรี
เจ้าจักปรารมภ์ไปไยมี พี่เป็นคนเก่าพอเข้าใจ
เชิญเจ้ารำเถิดนะนางฟ้า ให้สิ้นท่าที่นางจำได้
ตัวพี่จะรำตามไป มิให้ผิดเพลงนางเทวี ฯ
เมื่อนั้น พระนารายณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี
เห็นนนทกหลงกลก็ยินดี ทำทีเยื้องกรายให้ยวนยิน ฯ
เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน
ทั้งกวางเดินหงส์บิน กินรินเลียบถ้ำอำไพ
อีกช้านางนอนภมรเคล้า ทั้งแขกเต้าผาลาเพียงไหล่
เมขลาโยนแก้วแววไว มยุเรศฟ้อนในอัมพร
ลมพัดยอดตองพรหมนิมิต ทั้งพิสมัยเรียงหมอน
ย้ายท่ามัจฉาชมสาคร พระสี่กรขว้างจักรฤทธิรงค์
ฝ่ายนนทกก็รำตาม ด้วยความพิสมัยใหลหลง
ถึงท่านาคาม้วนหางวง ชี้ตรงถูกเพลาทันใด
ฯ
ด้วยเดชนิ้วเพชรสิทธิศักดิ์ ขาหักล้มลงไม่ทนได้
นางกลายเป็นองค์นารายณ์ไป เหยียบไว้จะสังหารราญรอน
ฯ
บัดนั้น นนทกแกล้วหาญชาญสมร
เห็นพระองค์ทรงสังข์คทาธร เป็นสี่กรก็รู้ประจักษ์ใจ
ว่าพระหริวงศ์ทรงฤทธิ์ ลวงล้างชีวิตก็เป็นได้
จึ่งมีวาจาถามไป โทษข้าเป็นไฉนให้ว่ามา ฯ
เมื่อนั้น พระนารายณ์บรมนาถา
ได้ฟังจึ่งมีบัญชา โทษามึงใหญ่หลวงนัก
ด้วยทำโอหังบังเหตุ ไม่เกรงเดชพระอิศวรทรงจักร
เอ็งฆ่าเทวาสุรารักษ์ โทษหนักถึงที่บรรลัย
ตัวกูก็คิดเมตตา
แต่จะไว้ชีวามึงไม่ได้
ตรัสแล้วแกว่งตรีเกรียงไกร แสงกระจายพรายไปดั่งไฟกาล
ฯ
บัดนั้น นนทกผู้ใจแกล้วหาญ
ได้ฟังจึ่งตอบพจมาน ซึ่งพระองค์จะผลาญชีวี
เหตุใดมิทำซึ่งหน้า มารยาเป็นหญิงไม่บัดสี
หรือว่ากลัวนิ้วเพชรนี้ จะชี้พระองค์ให้บรรลัย
ตัวข้ามีมือแต่สองมือ หรือจะสู้ทั้งสี่กรได้
แม้นสี่มือเหมือนพระองค์ทรงชัย ที่ไหนจะทำได้ดั่งนี้ ฯ
เมื่อนั้น พระนารายณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี
ได้ฟังจึ่งตอบวาที กูนี้แปลงเป็นสตรีมา
เพราะมึงจะถึงแก่ความตาย ฉิบหายด้วยหลงเสน่หา
ใช่ว่ากลัวฤทธา
ศักดานิ้วเพชรนั้นเมื่อไร
ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์ จงไปอุบัติเอาชาติใหม่
ให้สิบเศียรสิบพักตร์เกรียงไกร เหาะเหินเดินได้ในอัมพร
มีมือยี่สิบซ้ายขวา ถือคทาอาวุธธนูศร
กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกร ตามไปราญรอนชีวี
ให้สิ้นวงศ์มึงอันศักดา ประจักษ์แก่เทวาทุกราศี
ว่าแล้วกวัดแกว่งพระแสงตรี ภูมีตัดเศียรกระเด็นไป
ฯ
ครั้นล้างนนทกมรณา พระจักราผู้มีอัชณาสัย
เหาะระเห็จเตร็จฟ้าด้วยว่องไว ไปยังเกษียรวารี
ฯ
เมื่อนั้น ฝ่ายนางรัชดามเหสี
องค์ท้าวลัสเตียนธิบดี เทวีมีราชบุตรา
คือว่านนทกมากำเนิด เกิดเป็นพระโอรสา
ชื่อทศกัณฐ์กุมารา สิบเศียรสิบหน้ายี่สิบกร
อันน้องซึ่งถัดมานั้น ชื่อกุมภรรณชาญสมร
องค์พระบิตุเรศมารดร มิให้อนาทรสักนาที
แหล่งที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=LS8yDQXq8hs
แหล่งที่มา : https://sway.com/1q7GXbxZfdZCfWM6
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น