วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก

ผู้แต่ง  พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1
ลักษณะคำประพันธ์  กลอนบทละคร

เนื้อเรื่องย่อ

105650659.jpg

          นนทกมีหน้าที่ล้างเท้าเทวดาอยู่ที่เชิงเ
ขาไกรลาส เมื่อเทวดาพากันไปเฝ้าพระอิศวร พวกเทวดาชอบข่มเหงนนทกอยู่เป็นประจำโดยการลูบหัว ตบหัว จนกระทั่งผมร่วงหมด 


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก          นนทกแค้นใจเป็นอันมากจึงไปเฝ้าพระอิศวรกราบทูลว่าตนเองได้รับใช้มานานยังไม่เคยได้รับสิ่งใดตอบแทนเลย จึงทูลขอให้นิ้วเป็นเพชรมีฤทธิ์ชี้ผู้ใดก็ให้ผู้นั้นถึงตายได้ พระอิศวรก็ประทานให้ตามขอเมื่อเทวดามาลูบศีรษะเล่นเช่นเคย นนทกก็ชี้ให้ตายลงเป็นจำนวนมาก พระอิศวรทรงทราบก็กริ้วโปรดให้พระนารายณ์ไปปราบนนทก 


          
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง          พระนารายณ์จึงแปลงกายเป็นนางฟ้าที่สวยงามมายั่วยวน นนทกนึกรักจึงเกี้ยวนาง นางแปลงจึงชวนให้นนทกร่ายรำก่อนจึงจะรับรัก นนทกตกลงรำตามไปจนถึงท่านาคาม้วนหาง (ท่ารำที่ใช้นิ้วเพชรชี้ที่เข่าตนเอง) นนทกก็ล้มลง ก่อนตายนนทกเห็นนางแปลงปรากฏร่างเป็นพระนารายณ์จึงต่อว่าพระนารายณ์มีอำนาจมีถึงสี่กร เหตุใดจึงต้องทำอุบายมาหลอกลวงตน พระนารายณ์จึงให้นนทกไปเกิดใหม่ให้มีถึง 20 มือมีฤทธิ์มากมายแล้วพระองค์จะตามไปเกิดเป็นมนุษย์มีเพียง 2 มือลงไปสู้ด้วยและจะเอาชนะให้ได้


เนื้อเรื่อง

           มาจะกล่าวบทไปถึง                   นนทกน้ำใจกล้าหาญ
ตั้งแต่พระสยมภูวญาณ                        ประทานให้ล้างเท้าเทวา
อยู่บันไดไกรลาสเป็นนิจ                     สุราฤทธิ์ตบหัวแล้วลูบหน้า
บ้างให้ตักน้ำลางบาทา                         บ้างถอนเส้นเกศาวุ่นไป
จนผมโกร๋นโล้นเกลี้ยงถึงเพียงหู         ดูเงาในน้ำแล้วร้องไห้
ฮึดฮัดขัดแค้นแน่นใจ                           ตาแดงดั่งแสงไฟฟ้า
เป็นชายดูดู๋มาหมิ่นชาย                        มิตายจะได้มาเห็นหน้า
คิดแล้วก็รีบเดินมา                                เฝ้าพระอิศราธิบดี ฯ
      ครั้นถึงจี่งประณตบทบงสุ์              ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี
ว่าพระองค์เป็นหลักธาตรี                     ย่อมเมตตาปรานีทั่วพักตร์
ผู้ใดทำชอบต่อเบื้องบาท                       ก็ประสาททั้งพรแลยศศักดิ์
ตัวข้านี้มีชอบนัก                                   ล้างเท้าสุรารักษ์ถึงโกฏิปี
พระองค์ผู้ทรงศักดาเดช                       ไม่โปรดเกศแก่ข้าบทศรี
กรรมเวรสิ่งใดดั่งนี้                               ทูลพลางโศกีรำพัน ฯ
           เมื่อนั้น                                       พระอิศวรบรมรังสรรค์
เห็นนนทกโศกาจาบัลย์                         พระทรงธรรม์ให้คิดเมตตา
จึ่งมีเทวราชบรรหาร                               เอ็งต้องการสิ่งไรจงเร่งว่า
ตัวกูจะให้ดั่งจินดา                                  อย่าแสนโศกาอาลัย ฯ
           บัดนั้น                                            นนทกผู้มีอัชฌาสัย
น้อมเศียรบังคมแล้วทูลไป                     จะขอพรเจ้าไตรโลกา
ให้นิ้วข้าเป็นเพชรฤทธี                           จะชี้ใครจงม้วยสังขาร์
จะได้รองเบื้องบาทา                              ไปกว่าจะสิ้นชีวี ฯ
              เมื่อนั้น                              พระสยมภูวญาณเรืองศรี
ได้ฟังนนทกพาที                          ภูมีนิ่งนึกตรึกไป
ไอ้นี่มีชอบมาช้านอน                   จำจะประทานพรให้
คิดแล้วก็ประสิทธิ์พรชัย              จงได้สำเร็จมโนรถ ฯ
             บัดนั้น                               นนทกผู้ใจสาหส
รับพรพระศุลีมียศ                        บังคมลาแล้วบทจรไป ฯ
            ครั้นถึงบันไดไกรลาส     ขัดสมาธินั่งยิ้มริมอ่างใหญ่
คอยหมู่เทวาสุราลัย                    ด้วยใจกำเริบอหังการ์ ฯ
           เมื่อนั้น                                    เทวาสุราฤทธิ์ทุกทิศา
สุบรรณคนธรรพ์วิทยา                ต่างมาเฝ้าองค์พระศุลี ฯ
          ครั้นถึงซึ่งเซิงไกรลาส           คนธรรพ์เทวาราชฤาษี
ก็ชวนกันย่างเยื้องจรลี                     เข้าไปยังที่อัฒจันทร์ ฯ
           นนทกก็ล้างเท้าให้                เมื่อจะไปก็จับหัวสั่น
สัพยอกหยอกเล่นเหมือนทุกวัน     สรวลสันต์เยาะเย้ยเฮฮา ฯ
          บัดนั้น                                      นนทกน้ำใจแกล้วกล้า
กริ้วโกรธร้องประกาศตวาดมา       อนิจจาข่มเหงเล่นทุกวัน
จนหัวไม่มีผมติด                              ขบฟันแล้วชี้นิ้วไป ฯ
         ต้องสุบรรณเทวานาคี           ดั่งพิษอสุนีไม่ทนได้
ลัมฟาดกลาดเกลื่อนลงทันใด      บรรลัยไม่ทันพริบตา ฯ
         เมื่อนั้น                                    หัสนัยน์เจ้าตรัยตรึงศา
เห็นนนทกนั้นทำฤทธา                  ชี้หมู่เทวาวายปราณ
ตกใจตะลึกรำพึงคิด                      ใครประสิทธิ์ให้มันมาสังหาร
คิดแล้วเข้าเฝ้าพระทรงญาณ       ยังพิมานทิพรัตน์รูจี ฯ
        ครั้นถึงจึ่งประณตบทบงสุ์     ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี
ว่านนทกมันทำฤทธี                       ชี้หมู่เทวานั้นบรรลัย
อันซึ้งนิ้วเพชรของมัน                   พระทรงธรรม์ประทานหรือไฉน
จึ่งทำอาจองทะนงใจ                   ไม่เกรงใต้เบื้องบาทา ฯ
         เมื่อนั้น                                   พระอิศวรบรมนาถา
ได้ฟังองค์อมรินทรา                     จึ่งมีบัญชาตอบไป
ไอ้นี่ทำชอบมาช้านาน                  เราจี่งประทานพรให้
มันกลับทรยศกบฏใจ                   ทำการหยาบใหญ่ถึงเพียงนี้ ฯ
      ตรัสแล้วจึ่งมีบัญชา               ดูราพระนารายณ์เรืองศรี
ตัวเจ้าผู้มีฤทธี                              เป็นที่พึ่งแก่หมู่เทวัญ
จงช่วยระงับดับเข็ญ                     ให้เย็นทั่วพิภพสรวงสวรรรค์
เชิญไปสังหารอ้ายอาธรรม์         ให้มันสิ้นชีพชีวา ฯ
      เมื่อนั้น                                    องค์นารายณ์นาถา
รับสั่งถวายบังคมล                     ออกมาแปลงกายด้วยฤทธี ฯ
เป็นโฉมนางเทพอัปสร              อ้อนแอ้นอรชรเฉลิมศรี
กรายกรย่างเยื่องจรลี                 ไปสู่ที่นนทกจะเดินมา ฯ
        บัดนั้น                                             นนทกผู้ใจแกล้วกล้า
สิ้นเวลาเฝ้าเจ้าโลกา                           สำราญกายาแล้วเดินมา ฯ
       เหลือบเห็นสตรีวิไลลักษณ์          พิศพักตร์ผ่องเพียงแขไข
งามโอษฐ์งามแก้มงามจุไร                  งามนัยน์เนตรงามกร
งามถันงามกรรณงามขนง                   งามองค์ยิ่งเทพอัปสร
งามจริตกิริยางามงอน                         งามเอวงามอ่อนทั้งกายา
ถึงโฉมองค์อัครลักษมี                        พระสุรัสวดีเสน่หา
สิ้นทั้งไตรภพจบโลกา                        จะเอามาเปรียบไม่เทียบทัน
ดูไหนก็เพลินจำเริญรัก                       ในองค์เยาวลักษณ์สาวสวรรค
ยิ่งพิศยิ่งคิดผูกพัน                              ก็เดินกระชั้นเข้าไป ฯ
       โฉมเอยโฉมเฉลา                       เสาวภาค์แน่งน้อยพิสมัย
เจ้ามาแต่สวรรค์ชั้นใด                       นามกรชื่อไรนะเทวี
ประสงค์สิ่งอันใดจะใคร่รู้                  ทำไมมาอยู่ที่นี่
ข้าเห็นเป็นน่ปรานี                             มารศรีจงแจ้งกิจจา ฯ
        เมื่อนั้น                                        นางนารายณ์เยาวลักษณ์เสน่หา
ได้ฟังยิ่งทำมารยา                            ชำเลืองนัยนาแล้วตอบไป
ทำไมมาล่วงไถ่ถาม                         ลวนลามบุกรุกเข้ามาใกล้
ท่านนี้ไม่มีความเกรงใจ                  เราเป็นข้าใช้เจ้าโลกา
พนักงานฟ้อนรำระบำบัน                ชื่อสุวรรณอัปสรเสน่หา
มีทุกข์จึ่งเที่ยวลงมา                       หวังว่าจะให้คลายร้อน ฯ
        สุดเอยสุดสวาท                      โฉมประหลาดล้ำเทพอัปสร
ทั้งวาจาจริตก็งามงอน                   ควรเป็นนางฟ้อนวิไลลักษณ์
อันซึ่งธุระของเจ้า                           หนักเบาจงแจ้งให้ประจักษ์
ถ้าวาสนาเราเคยบำรุงรัก               ก็จะเป็นภักดิ์ผลสืบไป
ตัวพี่มิได้ลวนลาม                           จะถือความสิ่งนี้นี่ไม่ได้
สาวสรรค์ขวัญฟ้ายาใจ                  พี่ไร้คู่จะพึ่งแต่ไมตรี ฯ
          เมื่อนั้น                                 นางเทพนิมิตโฉมศรี
ค้อนแล้วจึ่งตอบวาที                   ว่านี้ไพเราะเป็นพ้นไป
อันซึ่งฝากไมตรีข้า                      ข้อนั้นไพเราะเป็นพ้นไป
อันซึ่งจะฝากไมตรีข้า                 ข้อนั้นอย่าว่าหารู้ไม่
เราเป็นนางรำระบำใน                 จะมีมิตรที่ใจผูกพัน
ในการนักเลงเพลงฟ้อน             จึ่งจะผ่อนด้วยความเกษมสันต์
รำได้ก็มารำตามกัน                    นั่นแหละจะสมดั่งจินดา ฯ
        บัดนั้น                           นนทกผู้ใจแกล้วกล้า
ไม่รู้ว่านารายณ์แปลงมา           ก็โสมนัสสาพันทวี
ยิ้มแล้วจึ่งกล่าวว่าสุนทร           ดูก่อนนางฟ้าเฉลิมศรี
เจ้าจักปรารมภ์ไปไยมี              พี่เป็นคนเก่าพอเข้าใจ
เชิญเจ้ารำเถิดนะนางฟ้า          ให้สิ้นท่าที่นางจำได้
ตัวพี่จะรำตามไป                       มิให้ผิดเพลงนางเทวี ฯ
         เมื่อนั้น                               พระนารายณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี
เห็นนนทกหลงกลก็ยินดี         ทำทีเยื้องกรายให้ยวนยิน ฯ
      เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า    สอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน
ทั้งกวางเดินหงส์บิน                กินรินเลียบถ้ำอำไพ
อีกช้านางนอนภมรเคล้า         ทั้งแขกเต้าผาลาเพียงไหล่
เมขลาโยนแก้วแววไว            มยุเรศฟ้อนในอัมพร
ลมพัดยอดตองพรหมนิมิต    ทั้งพิสมัยเรียงหมอน
ย้ายท่ามัจฉาชมสาคร            พระสี่กรขว้างจักรฤทธิรงค์
ฝ่ายนนทกก็รำตาม                ด้วยความพิสมัยใหลหลง
ถึงท่านาคาม้วนหางวง           ชี้ตรงถูกเพลาทันใด ฯ
ด้วยเดชนิ้วเพชรสิทธิศักดิ์        ขาหักล้มลงไม่ทนได้
นางกลายเป็นองค์นารายณ์ไป        เหยียบไว้จะสังหารราญรอน ฯ
       บัดนั้น                             นนทกแกล้วหาญชาญสมร
เห็นพระองค์ทรงสังข์คทาธร          เป็นสี่กรก็รู้ประจักษ์ใจ
ว่าพระหริวงศ์ทรงฤทธิ์                    ลวงล้างชีวิตก็เป็นได้
จึ่งมีวาจาถามไป                             โทษข้าเป็นไฉนให้ว่ามา ฯ
     เมื่อนั้น                                         พระนารายณ์บรมนาถา
ได้ฟังจึ่งมีบัญชา                             โทษามึงใหญ่หลวงนัก
ด้วยทำโอหังบังเหตุ                       ไม่เกรงเดชพระอิศวรทรงจักร
เอ็งฆ่าเทวาสุรารักษ์                       โทษหนักถึงที่บรรลัย
ตัวกูก็คิดเมตตา                               แต่จะไว้ชีวามึงไม่ได้
ตรัสแล้วแกว่งตรีเกรียงไกร            แสงกระจายพรายไปดั่งไฟกาล ฯ
          บัดนั้น                                     นนทกผู้ใจแกล้วหาญ
ได้ฟังจึ่งตอบพจมาน                     ซึ่งพระองค์จะผลาญชีวี
เหตุใดมิทำซึ่งหน้า                         มารยาเป็นหญิงไม่บัดสี
หรือว่ากลัวนิ้วเพชรนี้                     จะชี้พระองค์ให้บรรลัย
ตัวข้ามีมือแต่สองมือ                     หรือจะสู้ทั้งสี่กรได้
แม้นสี่มือเหมือนพระองค์ทรงชัย    ที่ไหนจะทำได้ดั่งนี้ ฯ
        เมื่อนั้น                                      พระนารายณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี
ได้ฟังจึ่งตอบวาที                           กูนี้แปลงเป็นสตรีมา
เพราะมึงจะถึงแก่ความตาย          ฉิบหายด้วยหลงเสน่หา
ใช่ว่ากลัวฤทธา                              ศักดานิ้วเพชรนั้นเมื่อไร
ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์                  จงไปอุบัติเอาชาติใหม่
ให้สิบเศียรสิบพักตร์เกรียงไกร    เหาะเหินเดินได้ในอัมพร
มีมือยี่สิบซ้ายขวา                         ถือคทาอาวุธธนูศร
กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกร             ตามไปราญรอนชีวี
ให้สิ้นวงศ์มึงอันศักดา                  ประจักษ์แก่เทวาทุกราศี
ว่าแล้วกวัดแกว่งพระแสงตรี        ภูมีตัดเศียรกระเด็นไป ฯ
      ครั้นล้างนนทกมรณา               พระจักราผู้มีอัชณาสัย
เหาะระเห็จเตร็จฟ้าด้วยว่องไว     ไปยังเกษียรวารี ฯ
      เมื่อนั้น                                      ฝ่ายนางรัชดามเหสี
องค์ท้าวลัสเตียนธิบดี                  เทวีมีราชบุตรา
คือว่านนทกมากำเนิด                  เกิดเป็นพระโอรสา
ชื่อทศกัณฐ์กุมารา                        สิบเศียรสิบหน้ายี่สิบกร
อันน้องซึ่งถัดมานั้น                      ชื่อกุมภรรณชาญสมร
องค์พระบิตุเรศมารดร                  มิให้อนาทรสักนาที


แหล่งที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=LS8yDQXq8hs

แหล่งที่มา : https://sway.com/1q7GXbxZfdZCfWM6



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น